CBR 150i + 150r ข้อมูล PGMFI

ข้อมูล All New CBR150 : True Blood of Sport Spirit สปอร์ตเร้าใจ สายพันธุ์แท้ :
150cc / DOHC 4 VALVE / Liquid Cooled / PGM-FI



Honda CBR 150R ใหม่
ทุกจังหวะชีวิต เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

     ถึงเวลาปลุกเร้าสัญชาตญาณความเร็วสูงที่อยู่ภายใน กับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150ซีซี ใหม่พลังท้าทายของคนหัวใจสปอร์ตตัวจริง ปฏิวัติรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด
ด้วยการผสานความล้ำหน้าแห่งดีไซน์เข้ากับนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยี จนได้เป็นยนตกรรมสปอร์ตร้อนแรง ที่เปลี่ยนให้คุณคือผู้ควบคุมทุกสิ่ง และโลดแล่นออกไปสู่โลกความเร็ว
ได้อย่างใจต้องการ




เข้มข้นด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน

1. Sporty Full Cowling ดีไซน์ใหม่ล่าสุดแบบฟูลคาวลิ่ง เท่ทรงพลัง ตั้งแต่หน้ากากจรดไฟหน้าใหม่ พร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น จุน้ำมันได้ถึง 13 ลิตร
2. Stylish Tail Light and Separate Hand Grip ไฟท้ายสวยเด่นชัดเจน พร้อมือจับหลังใหม่ดีไซน์แยกส่วน จับกระชับมือ
3. Smart Alloy Wheels (Tubeless Tire) ล้อแมกซ์ดีไซน์ใหม่ เข้มลงตัวกับบอดี้รถ พร้อมยางแบบจุ๊บเลส
4. New Muffler Design ท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ล่าสุด พร้อมเพิ่มแผ่นกันความร้อน (Muffler Protector) ดีไซน์พิเศษ ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น
5. New Digital Meter หน้าปัดเรือนไมล์ดิจิตอล แสดงผลบนจอ LCD (เกจ์วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ เกจ์วัดน้ำมัน มาตรวัดความเร็ว พร้อมระบบ ODO meter
วัดระยะการเดินทาง และครั้งแรกกับนาฬิกาดิจิติล)




มั่นใจในเทคโนโลยีความปลอดภัย

1. New Design Mono Shock Absorber โช้คหน้าขนาดใหญ่ โช้คหลังแบบโมโนโช้ค รับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ช่วยเพิ่มการทรงตัว
    ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ไม่สะบัด รับกับหน้ายางขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มการเกาะถนนยิ่งขึ้น ปลอดภัยเป็นเยี่ยม
2. Front Disk Brake ดิสก์เบรคหน้าลูกสูบคู่ เพื่อการเบรคได้แม่นยำ หยุดสนิทตามต้องการ
3. Key Shutter กุญแจนิรภัย 2 ชั้น




ผ่อนคลายด้วยความสบายเต็มอารมณ์

1. Smart Riding Position ตำแหน่งท่านั่งของคนขับออกแบบให้มีระดับการโน้มตัวไปข้างหน้า ไม่ต้องก้มมากเหมือนรถสปอ์ตทั่วไป
     จึงไม่เมื่อยแม้นั่งขับเป็นเวลานาน
2. Tandem Seat ออกแบบเบาะสองตอน เพื่อให้ตำแหน่งคนซ้อนเว้นระยะห่างจากคนขับอย่างพอดี จึงนั่งสบาย ให้ความรู้สึก
     ผ่อนคลาย พร้อมโลดแล่นไปด้วยกันทุกเส้นทาง





เทคโนโลยีเหนือชั้น เปี่ยมไปด้วยพลัง

1. รถสปอร์ตหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) รุ่นแรกของไทยในระดับ 150 ซีซี พร้อมเครื่องยนต์
    DOHC (Double Overshaft) 4 วาล์ว จ่ายน้ำมันอย่างแม่นยำ ให้สมรรถนะแรงเต็มพลัง เผาไหม้หมดจด
    จึงช่วยประหยัดน้ำมันสูงขึ้น พร้อมให้ไอเสียที่สะอาด ผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ 6
2. Liquid Cooled ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ กับหม้อน้ำทรงประสิทธิภาพ ให้อัตราเร่งดีขับขี่ได้ระยะทางไกลยิ่งขึ้น
3. Strong Pentagon Frame ใหม่ เฟรมตัวถังสีดำ 5 เหลี่ยม เพิ่มการทรงตัวได้ดี รองรับแรงสั่นสะเทือนเป็นเยี่ยม
Specification




รุ่น     CBR 150R
รหัสรุ่น     CS 150R
เครื่องยนต์     ระบบจ่ายหัวฉีด PGM-FI DOHC 4 วาล์ว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาณกระบอกสูบ (ซีซี)     149.4
ความกว้างกระบอกสูบ (มม.) x ช่วงชัก (มม.)     63.5 x 47.2
อัตราส่วนแรงอัด     11.0 : 1
ระบบครัทช์     แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน
อัตราทดเกียร์ (ขั้นต้น/ขั้นสุดท้าย)     3.260 / 2.866
ระบบส่งกำลัง (ระบบเกียร์)     เกียร์ 6 ระดับ
ระบบจุดระเบิด     Digital Transistorized
ระบบการติดตั้งเครื่องยนต์     สตาร์ทมือ
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง (มม.)     695 x 1,977 x 1,130
ระยะห่างช่วงล้อ (มม.)     1,310
ระยะห่างจากพื้น (มม.)     185
มุมคาสเตอร์ / ระยะเทล (o/*) / (มม.)     25/90
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร)     13.1
เฟรม     TWIN TUBE DIAMOND (Pentagon Type) / เทเลสโคปิค / โมโนโช้ค
น้ำหนักสุทธิ (กก.)     138
ระบบห้ามล้อ (หน้า)     ดิสก์เบรค ลูกสูบคู่
ระบบห้ามล้อ (หลัง)     ดิสก์เบรค
ล้อ     ล้อแม็ก
แบตเตอรี่     แบบแห้งขนาด 12V-5Ah
ขนาดยาง (หน้า)     100/80-17M/C 52P แบบจุ๊บเลส
ขนาดยาง (หลัง)     130/70-17M/C 62P แบบจุ๊บเลส
น้ำมันเชื้อเพลิง     



Colour Chart
บ่งบอกตัวตนที่แท้จริง ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะคุณ
By CADIT: http://www.cbr150club.com/board/index.php?topic=30338.0

ข้อมูลทางเทคนิค Honda CBR 150 R « เมื่อ: วันที่ 26 / เดือน พฤษภาคม ปี 2009 | เวลา 12:34:33 pm »

---

พลังขับขี่ที่เร้าใจในทุกลีลา EXCITING FOR HERO RIDING


        บิดมันส์ในทุกลีลา วาดลวดลายได้เร้าใจ กับพลังขับขี่ที่เหนือชั้น เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 150 ซีซี

 ระบบ DOHC 4 วาล์ว ครบชุดเต็มสูตรรถสปอร์ต ด้วยเฟรมตัวถัง 5 เหลี่ยม 

แบบ PENTAGON แข็งแกร่ง พร้อมดิกส์เบรกหน้า - หลัง 

และสวิงอาร์มขนาดใหญ่ ระบบกันสะเทือนหลังแบบโช้คเดี่ยว 

ถังน้ำมันออกแบบให้กระชับรับกับช่วงขา 

ช่วยให้ควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นคง 

ไม่ว่าจะวาดลวดลายท่าไหน เท่ได้อย่างมั่นใจในทุกลีลา
 
  
PRO - SPORT ENGINE DOHC 4 VALVE

      ขีดสุดแห่งเทคโนโลยีสปอร์ต 4 จังหวะ 

หม้อน้ำ 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว

 อีกขั้นของพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย

...ด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 6 เกียร์ 

คลัทช์มือแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว

 (DOUBLE OVERHEAD CAMSHAFT 4 VALVE)

 ที่ออกแบบโดยแยกวาล์วไอดี 2 วาล์ว และไอเสีย 2 วาล์

ว พร้อมกลไกขับเคลื่อนวาล์วโดยตรง

 (DIRECT VALVE) ควบคุมการทำงานของวาล์วด้วยเพลาลูกเบี้ยว

 เพื่อให้การไหลเวียนของไอดีและไอเสียเป็นไปอย่างแม่นยำ

 และมีประสิทธิภาพ ให้แรงม้าสูงสุดในรถสปอร์ต 4 จังหวะของเมืองไทย

 รอบเครื่องสูบสมรรถนะดีเยี่ยม พร้อมฝาครอบเครื่องยนต์สีดำ คมเข้ม สไตล์สปอร์ต

 ให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ด้วยคาร์บูเรเตอร์

 แบบสุญญากาศแบบเดียวกับบิ๊กไบค์ พร้อมติดตั้งบาลานเซอร์ 

เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่โซ่ราวลิ้นแบบซับเสียง (Sirent Chain) ทนทานไร้เสียงรบกวน 

ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมพัดลม

ไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่ควบคุมการทำงานด้วยเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ทำงาน
ได้เต็มกำลัง มั่นใจทั้งการขับขี่ทางไกล และเหมาะสม
กับการใช้งานในเมือง 
 


คมเข้ม...ดุดัน...ทันสมัย...ด้วยโคมไฟหน้าแบบ 4 ดวงคู่

 (FOUR - DIAMOND - EYES IDENTITY DESIGN)

 ให้แสงสว่างชัดเจน มองเห็นทั้งระยะใกล้และไกล พร้อมแผ่นกันลมสไตล์สปอร์ต 



 
 
PRO - SPORT DESIGN & STYLING

ก้านกระจกส่องหลังแบบใหม่!
ปรับระดับแคบ - กว้าง ได้อย่างง่ายดาย ดีไซน์...สไตล์รถบิ๊กไบค์
ให้มุมมองชัดเจนในถนนทุกรูปแบบ
เฟรมตัวถังสีดำ 5 เหลี่ยม แบบ PENTAGON แข็งแกร่ง ดุดันสไตล์รถแข่ง ช่วยให้ทรงตัวดีรับแรงสั่นสะเทือนเป็นเยี่ยม 




PRO - SPORT HERO RIDING ท่านั่งการขับขี่ที่ถูกต้อง


ระดับโปร ด้วยรูปทรงในสไตล์ REPLICA แบบ CITY BIKE
ออกแบบถังน้ำมันให้มีส่วนเว้ารับกับช่วงขา ระยะห่างระหว่างแฮนด์เดิลบาร์กับเบาะนั่ง

 ออกแบบให้สัมพันธ์กับสรีระของผู้ขับขี่
ทุกส่วนผสานกันอย่างลงตัวช่วยให้ควบคุมการเข้าโค้งได้อย่างมั่นคง 

ขับขี่ทางไกลสะดวกสบาย ไม่เมื่อยล้า 

 
PRO - SPORT TECHNOLOGY 4 STROKE 





เปิดไฟอัตโนมัติทันทีที่ติดเครื่องยนต์ ไฟท้ายแบบ 4 ตา FOUR - EYES RING
 เข้ากันกับมือจับหลังสีดำเข้มดุดัน 
แบบ 4 ดวงกลมในโคมเดียวกัน สวยเด่นเกินใคร รับกับมือจับหลังสีดำเข้ม สไตล์สปอร์ต





แผงมิเตอร์ ดีไซน์ สไตล์สปอร์ต 

พร้อมสรรพด้วยมิเตอร์บอกระดับน้ำมันมิเตอร์วัดอุณหภูมิ 

และมิเตอร์วัดรอบ เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าให้ความแม่นยำเที่ยงตรงกว่า





ระบบกันสะเทือนหลัง แบบโมโน ปรับได้ 4 ระดับ 

รับแรงกระแทกดีเยี่ยม ปรับระดับการทำงานได้ถึง 4 ระดับ

 เข้าถึงทุกสัมผัสแห่งการขับขี่ ทำงานควบคู่กับสวิงอาร์มหลังขนาดใหญ่ ทนทานเข้าโค้งได้มั่นใจ    

  
เท่จัด...ปราดเปรียวด้วยถังน้ำมันดีไซน์สปอร์ตแบบ Integrated Parts Design เชื่อมเคาริ่งหน้าให้รับกับถังน้ำมันอย่างลงตัว ฝาถังสไตล์แอโรเพลนเรียบสนิทติดกับตัวถัง




กุญแจนิรภัย 2 ชั้น Key Shutter   




4 จังหวะคือ ฮอนด้าทนทานมากที่สุด ด้วยการรับประกันคุณภาพทั้งคัน 3 ปี หรือ 30,000 กม.



Honda CBR 150 R ใหม่ ให้อากาศสะอาด ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ 5 
 
 



ไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น 

ด้วยระบบป้อนอากาศบำบัดไอเสียซึ่งทำงานโดยการนำอากาศบริสุทธิ์ส่งผ่านไปยังฝาสูบ 

เพื่อทำปฏิกิริยาเผาไหม้ไอดีที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ 

ที่บริเวณปากช่องพอร์ทไอเสียให้สมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อให้ไอเสียสะอาดยิ่งขึ้น  
    


ระบบ C.E.C.S. (Crankcose Emission Control System) 
หรือ ระบบควบคุมไอระเหยของน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ ให้ไหลกลับไปที่หม้อกรอง

 เพื่อส่งผ่านไปยังห้องเครื่องให้การเผาไหม้สมบูรณ์อีกครั้ง

 โดยไม่ปล่อยอากาศเสียสู่ภายนอกช่วยรักษาสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม 
 
 

---

ข้อมูลทางเทคนิค Honda CBR 150 R รุ่น / รหัส CBR 150 R / NCB 150 (C) 


เครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบตั้ง แบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ

ปริมาตรกระบอกสูบ 149.4 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 63.5 x 47.2 มม.
อัตราส่วนแรงอัด 11:1

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ สตาร์ทมือ (สตาร์ทไฟฟ้า)

ระบบจุดระเบิด CDI กระแสไฟตรง

หัวเทียนมาตรฐาน CR8E (NGK) หรือ U24ESR - N (DENSO)

ระบบเกียร์ 6 เกียร์

ระบบคลัทช์ แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน 
อัตรากดเกียร์ 

1-3.088
2-1.941
3-1.500
4-1.227
5-1.041
6-0.923  

อัตรากดเกียร์ขั้นต้น / ขั้นสุดท้าย 3.260 / 2.933

ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง ) 652 x 1,910 x 1,065 มม. 
ระยะห่างช่วงล้อ 1,286 มม. 

ระยะห่างจากพื้น 172 มม. 

ความสูงเบาะ 776 มม. 

มุมคาสเตอร์ / ระยะเทรล 25 องศา / 88 มม. 

น้ำหนักสุทธิ 115 กก. 
ระบบกันสะเทือน
หน้า เทเลสโคปิค
หลัง โมโนโช้ค 

ระบบห้ามล้อ
หน้า ดิกส์เบรก จานดิสก์ขนาด 276 มม.
หลัง ดิสก์เบรก จานดิสก์ขนาด 220 มม. 
ขนาดยาง
หน้า 80/90 - 17 M/C 44 P (TUBELESS)
หลัง 100/80 - 17 M/C 52P (TUBELESS)

แบตเตอรี่ MF ขนาด 12 V. - 5 Ah 
ความจุน้ำมันเครื่อง 10 ลิตร 
น้ำมันเชื้อเพลิง เบนซินไร้สารตะกั่ว ค่าออกเทน 91 ขึ้นไป

 หรือน้ำมันแก๊สโซฮอลออกเทน 95 หรือ ออกเทน 91 

ที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ไม่เกิน 10%

 
 
ที่มา: http://www.cbrclubthailand.com/cbrclubthailand-knowledge/honda-cbr-150-r/

ข้อมูลทางเทคนิค ระบบหัวฉีด PGM-FI

ประวัติความเป็นมาของระบบหัวฉีด PGM - FI       PGM - FI ย่อมาจากคำว่า Programmed Fuel Injection คือ การใช้ระบบอิเล็คโทคนิคส์เข้ามาควมคุมการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีปริมาณที่เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สภาวะต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพปริมาณไอเสียต่ำ ประหยัดน้ำมันและให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น

กำเนิดและวิวัฒนาการของระบบหัวฉีด
ฮอนด้ากับมอเตอร์ไซค์หัวฉีดรุ่นแรกของโลก

ฮอนด้าเริ่มพัฒนาระบบหัวฉีดนี้เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ด้วยเจตนารมณ์ที่จะสร้างระบบเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อย ให้ค่าไอเสียต่ำและให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่า ฮอนด้าประสบความสำเร็จในการผลิตมอเตอร์ไซค์ระบบหัวฉีดออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1982 โดยใช้ชื่อรุ่นว่า CX500 Turbo ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาให้ประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นมาตรฐาน คือ CX500 ขนาด 496.9 ซีซี.

ขณะเดียวกันก็มีอัตราเร่งดี สูงกว่ารถ 901 ซีซี. อย่าง CB900F นอกจาก CX500 Turbo จะเป็นมอเตอร์ไซค์หัวฉีดรุ่นแรกของฮอนด้าแล้ว ยังเป็นมอเตอร์ไซค์หัวฉีดรุ่นแรกของโลกที่ออกวางจำหน่ายให้ผู้ใช้ทั่วไปอีกด้วย       ในปี ค.ศ. 1998 ฮอนด้าได้นำเสนอรถระบบหัวฉีด PGM-FI รุ่น VFR800 FI สู่ผู้ใช้ ซึ่งเป็นรุ่นที่สามารถผ่านมาตราฐานควบคุมมลพิษของสหภาพยุโรป ( EUR01 ) ในขณะนั้นได้ ระบบ GPM-FI กับรถสนามแข่ง       ในแวดวงสนามแข่งก็มีการนำเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI เข้ามาใช้ในมอเตอร์เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น รุ่น NSR500 ที่นำมาใช้แข่งขันทางเรียบในรายการ World Grand Prix เมื่อปี ค.ศ.1993 และล่าสุดในปี ค.ศ. 2002 ระบบหัวฉีด PGM-FI ถูกนำมาบรรจุในรถมอเตอร์ไซค์รุ่น RC211V ที่ใช้แข่งขันในรายการ โมโตจีพี สามารถประสบความสำเร็จ และได้รับชัยชนะให้หลายสนาม รวมทั้งครองตำแหน่งแชมป์ผู้ผลิต ระดับโลก ถึง 3 ปีซ้อน นับตั้งแต่งปี ค.ศ. 2002 เป็นต้นมา เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่ระบบหัวฉีด PGM-FI ซึ่งถูกออกแบบการทำงานให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ทรงพลังที่สามารถตอบสนองต่อการขับขี่ของนักแข่งในทุกสภาวะได้อย่างสูงสุด อ้างอิง : http://www.aphonda.co.th/technology/PGM-FI.zip เกร็ดความรู้เรื่องรถมอไซต์มีครัชมือและไม่มี

หัวข้อ: ทำไม......รถมีครัช กับไม่มีครัช ต่างกันยังไงครับ ตอบ: รถมันมีครัทซ์ทุกคันและ ครับ แล้วแต่ว่า แบบ Auto หรือ Manual

คห !. >>> มีครัชมือ = ได้ออกกำลัง สั่งได้

ไม่มีครัชมือ = ขับเรื่อยๆ

ว่ากันไปนะครับ
ส่วนตัวเวลาวิ่งทางยาว มีครัชมือ สั่งได้ตามใจ แต่เวลารถติด บางครั้งอยากแปลงร่างเป็น wave-i

คห !.>>> บ่ะ คนอื่นตอบดีๆ กันหมดละ ตอบบ้างก็ได้ เดี๋ยวจะตามไม่ทัน
ครัชนอกจากจะเป็นไปตามที่ท่านอื่นบอกมา เรื่องความมันส์ เรื่องแรง เรื่องความสะดวก
คลัชมีผลต่อการประหยัดน้ำมันด้วยครับ
รถครัชมืออย่างเรา จะสูญเสียพลังงานน้อยกว่ารถเกียร์อัตโนมัติ(เวฟ ดรีม) และรถออโต้
พวกอื่นที่ไม่ใช่คลัชมือ โดยใช้ชุดคลัชแรงเหวี่ยงหรืออะไรคล้ายกันจะเปลืองพลังงานมากกว่า เพราะต้องรอรอบจนถึงระดับหนึ่ง มีแรงเหวี่ยงมากพอ คลัตซ์เกาะ รถถึงจะไป
ตามลำดับเลยครับ
คลัชมือ คลัชอัตโนมัติ คลัชและเกียร์อัตดนมัติ>เปลืองพลังงาน
เป็นเหตุผลหนึ่งนอกจากความฝืดเครื่อง ว่าทำไม รถออโต้กินน้ำมันมาก และร้อน ครับ

คห. !>>> 

1 สั่งได้ ดังใจ

2 ประหยัดน้ำมัน

3 เร็วแรงกว่า 

4 ไหลแบบ ชิว ชิว

5 เท่มากๆ ตัวคาบู 

ขอตอบด้วยคนคับ ผมยิงตรงไปที่ระบบเกียร์เลยนะคับ
- รถมีครัชคือแฮนด์ครัช จะเปลี่ยนเกียร์ได้ต้องกำครัชคับ แต่ที่จริงถ้าไม่กำก็เปลี่ยนได้แต่ไม่แนะนำ ประหยัดน้ำมันกว่า ปลอดภัยกว่า และส่วนใหญ่รถมีครัชจะเท่กว่ารถรุ่นอื่นๆ
- รถไม่มีครัชก็คือ ออโต้ครัช สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เลย เพราะไม่มีครัชให้กำ สบายกว่าเพราะไม่ต้องกลัวเครื่องดับตอนเข้าเกียร์ รถส่วนใหญ่จะเป็นรถทรงครอบครัว
-  แถมอีกเรื่องเลยละกัน รถออโตเมติก คือรถที่ไม่มีเกียร์ให้เปลี่ยนเลย ขี่อย่างเดียว เป็นรถที่สวย เท่ ขี่ง่าย แต่เรื่องความปลอดภัยจะน้อยที่สุด เพราะไม่มีระบบเกียร์ค่อยช่วยตัดรอบเครื่องยนตืในเวลาคับขัน ว่ากันง่ายๆก็คือ ไม่สามารถให้แอนจิ้นเบรคได้นั่นเอง